หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับผู้สมัครเข้ารับการอบรม และ/หรือผู้เข้าอบรมหลักสูตร DEF
มหาวิทยาลัยศรีปทุม (“มหาวิทยาลัย”) ขอแจ้งให้ท่านทราบถึงหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัย เนื่องจากหนังสือแจ้งฉบับนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่มหาวิทยาลัยจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนั้นเพื่อเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยจึงได้จัดให้มีหนังสือแจ้งฉบับนี้ขึ้นและมหาวิทยาลัยขอเรียนให้ท่านโปรดอ่านหนังสือแจ้งฉบับนี้เพื่อทราบและเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รายละเอียดดังนี้
1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา เพื่อมุ่งให้ความรู้ ความชำนาญแก่ผู้ศึกษา สนองความต้องการโดยให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและสังคมของชาติ เน้นการปฏิบัติภารกิจของสถาบันอุดมศึกษาในด้านการเรียน การสอน การวิจัย การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ในการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์และภายใต้ฐานดังต่อไปนี้
(1) ฐานสัญญา (Contract)
เป็นการจำเป็นที่ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่มหาวิทยาลัยเมื่อท่านได้ใช้บริการหรือติดต่อเกี่ยวกับข้อเสนอการให้บริการหรือเข้าทำสัญญากับมหาวิทยาลัย เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการหรือการเข้าทำสัญญาหรือเพื่อให้มหาวิทยาลัยได้ติดต่อสื่อสารหรือเพื่อติดตามและแจ้งผลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่ท่านทราบ
(2) ฐานความยินยอม (Consent)
กรณีจำเป็นเมื่อท่านให้ความยินยอมกับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการออกแบบ หรือเพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับการศึกษา หรือการบริการเพื่อนำเสนอการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวกับการศึกษา หรือเพื่อการบริหารจัดการภายใต้การดำเนินงานของมหาวิทยาลัย
(3) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการจัดการและการจัดทำรายงานที่จำเป็นภายในมหาวิทยาลัย การดูแลรักษาระบบเพื่อรักษามาตรฐานหรือการพัฒนาการบริการ การจัดการบริหารความเสี่ยงในมหาวิทยาลัย การควบคุมและการตรวจสอบภายใน ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย
(4) ฐานจดหมายเหตุ วิจัย หรือสถิติ
มหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม
(5) ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest)
กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อประโยชน์ในการระงับอันตรายเกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านหรือบุคคลอื่น
(6) ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบหมายให้แก่มหาวิทยาลัย
(7) ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation)
กรณีมีความจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์การใช้บริการ ประกอบกับฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม (Lawful Basis of Processing) ในแต่ละกิจกรรม ดังนี้
วัตถุประสงค์ |
ฐานการประมวลผล |
ผู้สมัครเข้ารับการอบรมหลักสูตร DEF |
|
1) เพื่อคัดเลือกผู้ที่สนใจสมัครอบรมที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับหลักสูตร | 1.1) ฐานความยินยอม
1.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับเป็นข้อมูลในการคัดเลือกเป็นผู้เข้ารับอบรมตามหลักสูตร1.3) ฐานสัญญา : เพื่อนำข้อมูลไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการหรือดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา |
2) เพื่อติดต่อสื่อสารหรือแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลที่สำคัญต่างๆ หรือให้คำแนะนำ | 2.1) ฐานความยินยอม
2.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการติดต่อสื่อสารหรือให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร |
3) เพื่อจัดทำรายชื่อและรายงานที่จำเป็นภายในมหาวิทยาลัย | 3.1) ฐานความยินยอม
3.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการจัดทำรายชื่อและรายงานที่จำเป็นภายในมหาวิทยาลัย 3.3) ฐานสัญญา : เพื่อนำข้อมูลไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการหรือดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา |
ผู้เข้าอบรมหลักสูตร DEF |
|
1) เพื่อติดต่อสื่อสารหรือแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลที่สำคัญต่างๆ หรือให้คำแนะนำ | 1.1) ฐานสัญญา : เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลให้เป็นไปตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
1.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อติดต่อสื่อสาร |
2) เพื่อใช้ในการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพ ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้อง จัดทำรายชื่อและรายงานที่จำเป็นสำหรับมหาวิทยาลัย จัดทำประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรหรือเอกสารใดๆเพื่อรับรองการจบหลักสูตร | 2.1) ฐานสัญญา : เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลให้เป็นไปตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
2.2) ฐานภารกิจของรัฐ : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่สำหรับภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง คู่มือการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2558 ซึ่งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ถือเป็นบริการสาธารณะที่รัฐได้ให้เอกชนเข้ามาจัดการศึกษาแทนรัฐ 2.3) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการพัฒนาความรู้ความสามารถของผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรม นักศึกษา บุคลากร |
3) เพื่อใช้ในการให้บริการรับชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการฝึกอบรม | 3.1) ฐานสัญญา : เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลให้เป็นไปตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
3.2) ฐานภารกิจของรัฐ : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่สำหรับภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง คู่มือการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2558 ซึ่งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ถือเป็นบริการสาธารณะที่รัฐได้ให้เอกชนเข้ามาจัดการศึกษาแทนรัฐ |
4) เพื่อใช้ในการดำเนินงานกิจกรรม สำหรับการพัฒนา การส่งเสริมการเรียนรู้ และการสร้างเสริมประสบการณ์ ตลอดจนการสร้างเครือข่าย สำหรับผู้เข้าอบรม เช่น การจัดทำธรรมเนียบรุ่น การจัดทำของที่ระลึก (เสื้อรุ่น) | 4.1) ฐานสัญญา : เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลให้เป็นไปตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
4.2) ฐานภารกิจของรัฐ : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่สำหรับภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง คู่มือการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2558 ซึ่งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ถือเป็นบริการสาธารณะที่รัฐได้ให้เอกชนเข้ามาจัดการศึกษาแทนรัฐ 4.3) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการจัดกิจกรรมให้แก่ผู้เข้าอบรม |
5) เพื่อจัดทำวิดีโอหรือสื่อประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร ในการเผยแพร่ให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆของมหาวิทยาลัย | 5.1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการเผยแพร่และการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆของมหาวิทยาลัย
5.2) ฐานความยินยอม : เพื่อนำเสนอและประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวกับการศึกษาของมหาวิทยาลัย |
มหาวิทยาลัยอาจจะใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมทางการตลาด
มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายนอกที่มหาวิทยาลัยมีข้อตกลงด้วย อาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด โดยจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไปใช้ในการทำกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด ดังต่อไปนี้
(1) การทำกิจกรรมการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) มหาวิทยาลัยจะดำเนินกิจกรรมการตลาดแบบตรงเฉพาะกรณีที่ท่านให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งกับมหาวิทยาลัย ตามที่มหาวิทยาลัยได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลให้ทราบแล้ว ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ให้ไว้ได้ตลอดเวลา โดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของมหาวิทยาลัย
(2) การทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาด มหาวิทยาลัยจะดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการรับนักเรียน เช่น กิจกรรมการเล่นเกม หรือกิจกรรมในช่องทาง Social Network กิจกรรมการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและบริการของมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยจะแจ้งให้ท่านทราบในกิจกรรมนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยจะไม่นำข้อมูลไปทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ยกเว้นท่านจะให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งเพื่อการทำการตลาดแบบตรง ตามที่มหาวิทยาลัยได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลให้ทราบแล้ว ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ให้ไว้ได้ตลอดเวลา โดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของมหาวิทยาลัย
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยจะทำการประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลทั่วไป
(1) ข้อมูลเฉพาะบุคคล : ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด เพศ สัญชาติ สถานที่เกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารราชการอื่นๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ สัดส่วนร่างกาย
(2) ข้อมูลสำหรับการติดต่อ : ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์
(3) ข้อมูลทางเทคนิค : การใช้งานและพฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ โดยมหาวิทยาลัยอาจใช้คุกกี้ (Cookies) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวมรวมข้อมูล หมายเลขไอพี ชนิดของเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้ในการเข้าถึง หน้าเว็บไซต์ที่เข้าเยี่ยมชม เวลาที่เยี่ยมชม เว็บไซต์ที่อ้างถึงเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย และข้อมูลซึ่งระบุตำแหน่งพื้นที่ของท่านขณะที่ใช้งานผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
(4) ข้อมูลการศึกษา : ชื่อสถาบันที่จบ วุฒิการศึกษา
(5) ข้อมูลการทำงาน : ตำแหน่งปัจจุบัน สถานที่ทำงานปัจจุบัน สถานประกอบการ
(6) ข้อมูลรูปภาพ เช่น รูปภาพใบหน้า บันทึกวิดีโอ
(7) ข้อมูลอื่นๆ : ข้อมูลบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง[1]
[1] ข้อมูลบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับท่านและท่านได้ให้ข้อมูลนั้นแก่มหาวิทยาลัย เช่น บิดา มารดา พี่น้อง คู่สมรส หรือบุคคลอ้างอิง (ข้อมูลที่เก็บ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อาชีพ สถานที่ทำงาน ตำแหน่ง รายได้ส่วนบุคคลต่อเดือน หมายเลขโทรศัพท์ รุ่นที่อบรม) เป็นต้น ทั้งนี้ ท่านได้แจ้งให้บุคคลที่สามดังกล่าวทราบถึงหนังสือแจ้งการประมวลผลฉบับนี้และได้ขอความยินยอมจากบุคคลที่สามดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวกับมหาวิทยาลัย
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามแหล่งที่มา ดังนี้
(1) เมื่อท่านให้ข้อมูลกับมหาวิทยาลัยผ่านเว็บไซต์
(2) เมื่อท่านให้ข้อมูลผ่านการกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ของมหาวิทยาลัย
(3) เมื่อท่านให้ข้อมูลกับมหาวิทยาลัยผ่านการติดต่อสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ของวิทยาลัยหรือช่องทางปกติ
5. การเปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคล
(5.1) การเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยอาจเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้กับบุคคลภายนอกตามความยินยอมของท่าน และจะใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งการประมวลผลฉบับนี้ ดังนี้
- บริษัทในเครือ
- เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์
- บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการตลาด
- หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือทางวิชาชีพ
- ธนาคารคู่สัญญา
- หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยด้านการศึกษา เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นต้น
(5.2) การเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในกรณีที่มหาวิทยาลัยเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ มหาวิทยาลัยจะดำเนินการส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและมหาวิทยาลัยอาจขอความยินยอมจากท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศตามที่กฎหมายกำหนด
บุคคลภายนอกที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากมหาวิทยาลัย จะต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้กับมหาวิทยาลัย
6. สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูล
ท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม
กรณีท่านให้ความยินยอมเพื่อให้มหาวิทยาลัย เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับมหาวิทยาลัย เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้การถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
(2) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัย หรือขอให้มหาวิทยาลัยเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
(3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(4) สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ หากพบว่าข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็นที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยแล้ว หรือกรณีที่ท่านได้ถอนความยินยอมและมหาวิทยาลัยไม่มีอำนาจดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านได้ หรือท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลและมหาวิทยาลัยไม่สามารถอ้างเหตุปฏิเสธการคัดค้านได้ หรือในกรณีที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(5) สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ในกรณีที่มหาวิทยาลัยดำเนินการระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องตามคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นข้อมูลที่หมดความจำเป็นแล้ว หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ระหว่างการพิสูจน์กรณีที่ท่านได้คัดค้านมหาวิทยาลัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิเสธการใช้สิทธิคัดค้านของท่านดังกล่าว
(6) สิทธิในการขอรับ ขอให้ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มหาวิทยาลัยได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่น รวมทั้งมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยได้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่นดังกล่าวได้โดยตรงเว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
(7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านมหาวิทยาลัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ที่ได้ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่มหาวิทยาลัยแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นความจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของมหาวิทยาลัย
(8) สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการที่มหาวิทยาลัยดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
7. มาตรการความปลอดภัยในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหาย หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย มหาวิทยาลัยจึงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งจะกำหนดให้เข้าถึงได้เฉพาะที่มหาวิทยาลัยอนุญาตโดยปฏิบัติตามมาตรการการดูแลของมหาวิทยาลัยเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
8. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามหนังสือแจ้งฉบับนี้ ดังนี้
- กรณีผู้สมัครเข้ารับการอบรม มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับมหาวิทยาลัย
- กรณีผู้เข้าอบรม มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น เว้นแต่ มหาวิทยาลัยอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากเห็นว่ายังมีความจำเป็นหรือกฎหมายกำหนดให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาตามวัตถุประสงค์นั้น
9. ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับท่าน
กรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับมหาวิทยาลัย อาจส่งผลกระทบต่อความสะดวกของท่านในการเข้าถึงการให้บริการตามวัตถุประสงค์ของหนังสือแจ้งการประมวลผลฉบับนี้
10. การเปลี่ยนแปลงหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยอาจปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขหนังสือแจ้งการประมวลผลฉบับนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะประกาศให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่ www.spu.ac.th
11. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อ ได้ดังนี้
(1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : มหาวิทยาลัยศรีปทุม เลขที่ 2410/2 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
(2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : บุคคลหรือหน่วยงานของมหาวิทยาลัยที่ทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2561 1111, 0 2561 2222 หรือโทรสาร 0 2561 1720 หรือ E-mail : DPO@spu.ac.th
หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับวิทยากรหลักสูตร DEF
มหาวิทยาลัยศรีปทุม (“มหาวิทยาลัย”) ขอแจ้งให้ท่านทราบถึงหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัย เนื่องจากหนังสือแจ้งฉบับนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่มหาวิทยาลัยจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนั้นเพื่อเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยจึงได้จัดให้มีหนังสือแจ้งฉบับนี้ขึ้นและมหาวิทยาลัยขอเรียนให้ท่านโปรดอ่านหนังสือแจ้งฉบับนี้เพื่อทราบและเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รายละเอียดดังนี้
1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา เพื่อมุ่งให้ความรู้ ความชำนาญแก่ผู้ศึกษา สนองความต้องการโดยให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและสังคมของชาติ เน้นการปฏิบัติภารกิจของสถาบันอุดมศึกษาในด้านการเรียน การสอน การวิจัย การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ในการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์และภายใต้ฐานดังต่อไปนี้
(1) ฐานสัญญา (Contract)
เป็นการจำเป็นที่ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่มหาวิทยาลัยเมื่อท่านได้ใช้บริการหรือติดต่อเกี่ยวกับข้อเสนอการให้บริการหรือเข้าทำสัญญากับมหาวิทยาลัย เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการหรือการเข้าทำสัญญาหรือเพื่อให้มหาวิทยาลัยได้ติดต่อสื่อสารหรือเพื่อติดตามและแจ้งผลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่ท่านทราบ
(2) ฐานความยินยอม (Consent)
กรณีจำเป็นเมื่อท่านให้ความยินยอมกับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการออกแบบ หรือเพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับการศึกษา หรือการบริการเพื่อนำเสนอการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวกับการศึกษา หรือเพื่อการบริหารจัดการภายใต้การดำเนินงานของมหาวิทยาลัย
(3) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการจัดการและการจัดทำรายงานที่จำเป็นภายในมหาวิทยาลัย การดูแลรักษาระบบเพื่อรักษามาตรฐานหรือการพัฒนาการบริการ การจัดการบริหารความเสี่ยงในมหาวิทยาลัย การควบคุมและการตรวจสอบภายใน ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย
(4) ฐานจดหมายเหตุ วิจัย หรือสถิติ
มหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม
(5) ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest)
กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อประโยชน์ในการระงับอันตรายเกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านหรือบุคคลอื่น
(6) ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบหมายให้แก่มหาวิทยาลัย
(7) ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation)
กรณีมีความจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์การใช้บริการ ประกอบกับฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม (Lawful Basis of Processing) ในแต่ละกิจกรรม ดังนี้
วัตถุประสงค์ |
ฐานการประมวลผล |
1) เพื่อติดต่อประสานงานและแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลที่สำคัญต่างๆ | 1.1) ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลให้เป็นไปตามสัญญา
1.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อติดต่อสื่อสาร |
2) เพื่อใช้ในการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการฝึกอบรม การจัดทำรายงานผลการจัดการฝึกอบรมหรือปรับปรุงหลักสูตร | 2.1) ฐานสัญญา : เพื่อนำข้อมูลไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการหรือดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
2.2) ฐานภารกิจของรัฐ : เพื่อการปฏิบัติหน้าที่สำหรับภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง คู่มือการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2558 ซึ่งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ถือเป็นบริการสาธารณะที่รัฐได้ให้เอกชนเข้ามาจัดการศึกษาแทนรัฐ |
3) เพื่อการจัดทำรายชื่อ ประวัติหรือเอกสารแนะนำข้อมูลวิทยากร สำหรับเผยแพร่ให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมและผู้ที่สนใจ | 3.1) ฐานความยินยอม
3.2) ฐานสัญญา : เพื่อนำข้อมูลไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการหรือดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา |
4) เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าตอบแทนวิทยากร | 4.1) ฐานสัญญา : เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลให้เป็นไปตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
4.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการจ่ายค่าตอบแทนแก่วิทยากร |
5) เพื่อจัดทำวิดีโอหรือสื่อประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร ในการเผยแพร่ให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆของมหาวิทยาลัย | 5.1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการเผยแพร่และการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆของมหาวิทยาลัย
5.2) ฐานความยินยอม : เพื่อนำเสนอกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ทางการตลาดที่เกี่ยวกับการศึกษาของมหาวิทยาลัย |
มหาวิทยาลัยอาจจะใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมทางการตลาด
มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายนอกที่มหาวิทยาลัยมีข้อตกลงด้วย อาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด โดยจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไปใช้ในการทำกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด ดังต่อไปนี้
(1) การทำกิจกรรมการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) มหาวิทยาลัยจะดำเนินกิจกรรมการตลาดแบบตรงเฉพาะกรณีที่ท่านให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งกับมหาวิทยาลัย ตามที่มหาวิทยาลัยได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลให้ทราบแล้ว ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ให้ไว้ได้ตลอดเวลา โดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของมหาวิทยาลัย
(2) การทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาด มหาวิทยาลัยจะดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการรับนักเรียน เช่น กิจกรรมการเล่นเกม หรือกิจกรรมในช่องทาง Social Network กิจกรรมการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและบริการของมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยจะแจ้งให้ท่านทราบในกิจกรรมนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยจะไม่นำข้อมูลไปทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ยกเว้นท่านจะให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งเพื่อการทำการตลาดแบบตรง ตามที่มหาวิทยาลัยได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลให้ทราบแล้ว ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ให้ไว้ได้ตลอดเวลา โดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของมหาวิทยาลัย
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยจะทำการประมวลผล
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลทั่วไป
(1) ข้อมูลเฉพาะบุคคล : ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด เพศ สัญชาติ สถานที่เกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารราชการอื่นๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้
(2) ข้อมูลสำหรับการติดต่อ : อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์
(3) ข้อมูลทางเทคนิค : การใช้งานและพฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ โดยมหาวิทยาลัยอาจใช้คุกกี้ (Cookies) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวมรวมข้อมูล หมายเลขไอพี ชนิดของเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้ในการเข้าถึง หน้าเว็บไซต์ที่เข้าเยี่ยมชม เวลาที่เยี่ยมชม เว็บไซต์ที่อ้างถึงเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย และข้อมูลซึ่งระบุตำแหน่งพื้นที่ของท่านขณะที่ใช้งานผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
(4) ข้อมูลการศึกษา : ชื่อสถาบันที่จบ วุฒิการศึกษา ประวัติการศึกษา
(5) ข้อมูลการทำงาน : ตำแหน่งปัจจุบัน ประวัติการทำงาน สถานที่ทำงานปัจจุบัน สถานประกอบการ
(6) ข้อมูลทางการเงิน : เลขที่บัญชีธนาคาร เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
(7) ข้อมูลรูปภาพ : รูปภาพใบหน้า บันทึกวิดีโอ
(8) ข้อมูลอื่นๆ : ข้อมูลบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง[1] ความเชี่ยวชาญ
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว[2]
ข้อมูลส่วนตัว : เชื้อชาติ ศาสนา กลุ่มเลือด
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยต้องขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว ตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
[1] ข้อมูลบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับท่านและท่านได้ให้ข้อมูลนั้นแก่มหาวิทยาลัย เช่น บิดา มารดา พี่น้อง คู่สมรส หรือบุคคลอ้างอิง (ข้อมูลที่เก็บ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อาชีพ สถานที่ทำงาน ตำแหน่ง รายได้ส่วนบุคคลต่อเดือน หมายเลขโทรศัพท์ รุ่นที่อบรม) เป็นต้น ทั้งนี้ ท่านได้แจ้งให้บุคคลที่สามดังกล่าวทราบถึงหนังสือแจ้งการประมวลผลฉบับนี้และได้ขอความยินยอมจากบุคคลที่สามดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวกับมหาวิทยาลัย
[2] ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรมข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามแหล่งที่มา ดังนี้
(1) เมื่อท่านให้ข้อมูลผ่านการกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ของมหาวิทยาลัย
(2) เมื่อท่านให้ข้อมูลกับมหาวิทยาลัยผ่านการติดต่อสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ของวิทยาลัยหรือช่องทางปกติ
5. การเปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคล
(5.1) การเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยอาจเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้กับบุคคลภายนอกตามความยินยอมของท่าน และจะใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งการประมวลผลฉบับนี้ ดังนี้
- บริษัทในเครือ
- เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์
- บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการตลาด
- หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือทางวิชาชีพ
- ธนาคารคู่สัญญา
- หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยด้านการศึกษา เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นต้น
(5.2) การเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในกรณีที่มหาวิทยาลัยเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ มหาวิทยาลัยจะดำเนินการส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและมหาวิทยาลัยอาจขอความยินยอมจากท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศตามที่กฎหมายกำหนด
บุคคลภายนอกที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากมหาวิทยาลัย จะต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้กับมหาวิทยาลัย
6. สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูล
ท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม
กรณีท่านให้ความยินยอมเพื่อให้มหาวิทยาลัย เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับมหาวิทยาลัย เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้การถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
(2) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัย หรือขอให้มหาวิทยาลัยเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
(3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(4) สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ หากพบว่าข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็นที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยแล้ว หรือกรณีที่ท่านได้ถอนความยินยอมและมหาวิทยาลัยไม่มีอำนาจดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านได้ หรือท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลและมหาวิทยาลัยไม่สามารถอ้างเหตุปฏิเสธการคัดค้านได้ หรือในกรณีที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(5) สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ในกรณีที่มหาวิทยาลัยดำเนินการระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องตามคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นข้อมูลที่หมดความจำเป็นแล้ว หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ระหว่างการพิสูจน์กรณีที่ท่านได้คัดค้านมหาวิทยาลัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิเสธการใช้สิทธิคัดค้านของท่านดังกล่าว
(6) สิทธิในการขอรับ ขอให้ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มหาวิทยาลัยได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่น รวมทั้งมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยได้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่นดังกล่าวได้โดยตรงเว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
(7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านมหาวิทยาลัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ที่ได้ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่มหาวิทยาลัยแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นความจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของมหาวิทยาลัย
(8) สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการที่มหาวิทยาลัยดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
7. มาตรการความปลอดภัยในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหาย หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย มหาวิทยาลัยจึงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งจะกำหนดให้เข้าถึงได้เฉพาะที่มหาวิทยาลัยอนุญาตโดยปฏิบัติตามมาตรการการดูแลของมหาวิทยาลัยเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
8. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามหนังสือแจ้งฉบับนี้ ตลอดระยะเวลาที่ท่านเป็นวิทยากร และภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับมหาวิทยาลัย เว้นแต่ มหาวิทยาลัยอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากเห็นว่ายังมีความจำเป็นหรือกฎหมายกำหนดให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาตามวัตถุประสงค์นั้น
9. ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับท่าน
กรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับมหาวิทยาลัย อาจส่งผลกระทบต่อความสะดวกของท่านในการเข้าถึงการให้บริการตามวัตถุประสงค์ของหนังสือแจ้งการประมวลผลฉบับนี้
10. การเปลี่ยนแปลงหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยอาจปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขหนังสือแจ้งการประมวลผลฉบับนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะประกาศให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่ www.spu.ac.th
11. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อ ได้ดังนี้
(1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : มหาวิทยาลัยศรีปทุม เลขที่ 2410/2 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
(2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : บุคคลหรือหน่วยงานของมหาวิทยาลัยที่ทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2561 1111, 0 2561 2222 หรือโทรสาร 0 2561 1720 หรือ E-mail : DPO@spu.ac.th